ประกาศให้เงินช่วยเหลือเยเมน 1.5 พันล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มพันธมิตรซาอุฯ

Saudi-Alliance

กลุ่มพันธมิตรทางทหารที่นำโดยซาอุดีอาระเบียกล่าว ในวันจันทร์ว่าจะมีการส่งมอบเงินช่วยเหลือแก่ เยเมนเป็นจำนวนเงิน 1.5 พันล้านเหรียญ ซึ่งเป็นการสนับสนุนรัฐบาลในการจัดการกลุ่มติดฮูธิ ในระหว่างสงครามกลางเมืองสามปี โดยพันเอก Turki al-Maliki ได้ออกมาชี้แจ้งว่า “กำลังดำเนินแผนการช่วยเหลือในด้านมนุษยธรรม ด้วยอำนาจทางทหารที่เรามีเพื่อรับรองความปลอดภัยให้กับทุกคน” ในขณะที่เยเมนนั้น เป็นพื้นที่ ๆ มีปัญหาในด้านวิกฤติด้านมนุษยธรรมมาตลอดหลายสิบปี มีประชากรกว่า 8.3 ล้านคนขาดแคลนแหล่งอาหารที่จำเป็น และจำเป็นจะต้องได้รับการส่งอาหารไปให้เท่านั้น รวมถึงเด็กจำนวนกว่า 400,000 คน ที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากภาวะขาดสารอาหาร ส่งผลให้เกิดปัญหาร้ายแรงตามมา

ในขณะที่สัมพันธมิตรส่งเงินช่วยเหลือไปแล้วกว่าพันล้านเหรียญเพื่อช่วยเหลือในแก่ประเทศเยเมน แต่สงครามทำให้การส่งเสบียงนั้นถูกตัดขาด ทำให้อาหารมากกว่าครึ่งนั้นส่งไปไม่ถึงมือ ส่งผลให้ประชาชนที่ยากไร้เหล่านี้เข้าใกล้จุดที่เรียกว่าอดตายกันแล้วในปัจจุบัน การส่งเสบียงชุดใหม่นี้จะเพิ่มเป็น 1.4 ล้านเมตริกตัน ที่จากเดิมนั้นเพียงแค่ 1.1 ล้านเมตริกตัน ในขณะที่สัปดาห์ก่อนหน้าที่ นายกรัฐมนตรีเยเมนได้ออกมาประกาศขอเงินสนับสนุนจากนา ๆ ประเทศ เพื่อพยุงค่าเงิน และช่วยขจัดความหิวโหยของประชาชน ทำให้ทางซาอุดิอาราเบียได้ทำการฝากเงินในธนาคารกลางเป็นจำนวนกว่า 2 พันล้านเหรียญเพื่อช่วยเหลือ

จากการกดดันของนานาประเทศ สัมพันธมิตรได้ยุติการปิดพื้นที่ท่าเรือ และท่าอากาศยานของเยเมน ในเดือนพฤศจิกายน ที่ปิดล้อมเป็นเวลากว่านานกว่า 3 สัปดาห์ เพื่อตอบสนองต่อการต่อต้านการก่อการร้ายของกลุ่มติดอาวุธฮูติ ที่ยิงขีปนาวุธใส่กรุงริยาด โดยทางประธานาธิบดี ของสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ต่อสายตรงถึงประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อขอให้หน่วยงานช่วยเหลือด้านมนุษย์เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในเยเมน เพราะหากปิดวงล้อมทางเข้าออกอยู่แบบนี้ จะยิ่งทำให้ประชาชนในเยเมนมีโอกาสที่จะตายเพิ่มมากขึ้นในทุก ๆ วัน

ต่อมาทาง UNICEF ที่ได้รับการสนับสนุนโดยธนาคารโลกได้ส่งเงินสนับสนุนมาช่วยครอบครัวผู้ยากไร้อีก 1.5 ล้านครอบครัว โดยประกอบไปด้วย 9 ล้านชีวิต โดยเงินเหล่านี้มาจากโรงการที่เริ่มเมื่อกลางปี 2017 โดยการส่งมอบเงินครั้งนี้ถือเป็นรอบที่สอง และจะส่งอีกเป็นรอบที่สามในเดือนสิงหาคม ปี 2018 เป้าหมายคือการนำเงินไปซื้ออาหาร และยารักษาให้กับเด็ก ๆ โดยเฉพาะครอบครัวมีปัญหาหนักสุด รวมถึงจะช่วยลดปัญหาในการใช้แรงงานเด็ก ในขณะสถานการณ์ในปัจจุบันนั้น ทุกคนจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เงินในการประทังชีวิต รวมถึงการส่งลูกหลานตัวเองไปหาทำงานแลกเงินด้วยเช่นกัน